ทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 จากทัศนะของโจเซ่ มูริญโญ่

ไม่ว่าใครต่างก็ทราบดีว่าโจเซ่ มูริญโญ่ผู้จัดการทีมจอมอหังการชาวโปรตุกีสเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมฝีมือดีที่สุดของโลก นอกจากฝีไม้ลายมือในการคุมทีมข้างสนามแล้วไอคอนที่สำคัญของผู้จัดการทีมมาดขรึมคือวาจาเสียดสีที่มักจะเป็นประเด็นให้โลกฟุตบอลเกิดแรงกระเพื่อมได้เสมอ ด้วยคุณสมบัตินี้เอง Skysport สื่อกีฬาชั้นนำของโลกจึงจับกุนซือปากกรรไกรมานั่งทำหน้าที่เป็นนักวิจารณ์ฟุตบอลให้กับสถานีฯ และมูริญโญ่ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพียงแค่การทำหน้าที่ครั้งแรกเขาก็จัดประโยคเด็ดให้สำนักข่าวทั่วโลกได้แตกประเด็นกันยกใหญ่

“ผมคิดว่าทีมที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้มีอยู่สี่ทีมได้แก่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีม B เท่านั้น”

ภายหลังประโยคนี้ได้แพร่ออกไปผู้คนมากมายในวงการฟุตบอลต่างพยายามตีความหมายกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่ามูริญโญ่สัพยอกด้วยการกาชื่อสองสโมสรเก่าที่เขาเคยทำงานด้วยอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับเชลซีทิ้งเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่เขาโจมตีอดีตอู่ข้าวอู่น้ำทั้งสองของตัวเองผ่านสื่อเพราะความสัมพันธ์ที่ไม่ดีแต่ครั้งเก่าก่อนก็เท่านั้นเอง แต่หลายสื่อกลับแย้งว่าเรื่องความสัมพันธ์กับอดีตต้นสังกัดไม่น่าจะเกี่ยวกับเคสนี้เพราะหากพูดตามสภาพการณ์ทีมปิศาจแดงกับทีมสิงโตน้ำเงินครามก็ยังเป็นรองทั้งสามทีมข้างต้นจริงเพราะผู้จัดการทีมยังบลัดอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ของแมนฯยูฯกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซีไม่เคยมีประสบการณ์พาทีมลุ้นแชมป์แถมทั้งสองทีมยังมีปัญหาตัวผู้เล่นที่ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควร ต่างจากทีมเรือใบสีฟ้า ทีมหงส์แดงและทีมไก่เดือยทองที่ขุมกำลังค่อนข้างปึ้กจนแทบไม่มีจุดอ่อน

เมื่อเข้าใจได้ว่ามูริญโญ่วิจารณ์ตามความเป็นจริงหลายสื่อจึงต้องหาคำตอบต่อว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีม B หรือทีมสำรองของแมนฯซิตี้แข็งแกร่งพอจะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้จริงตามคำกล่าวของมูริญโญ่หรือไม่? เริ่มกันที่กองหน้า กาเบรียล เฆซุส ศูนย์หน้าทีมแชมป์โคปา อเมริกาปีล่าสุดเป็นตัวสำรองของเซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ปีกซ้าย ลีรอย ซาเน่ ตัวทีมชาติเยอรมนีเป็นตัวสำรองของ ราฮีม สเตอร์ริ่ง ปีกขวา ริยาร์ด มาห์เรซ แข้งแชมป์กาฬทวีปจากแอลจีเรียเป็นตัวสำรองของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา กองกลางทีมชาติเยอรมัน อิลคาย กุนโดกัน สำรอง เควิน เดอบรอยน์ กองกลางทีมชาติสเปน โรดรี้ สำรอง แฟร์นันดิญโญ่ กองกลางดาวรุ่งอนาคตทีมชาติอังกฤษ ฟิล โฟเด้น สำรอง ดาบิด ซิลบา แบ็คซ้ายทีมแชมป์โลกฝรั่งเศส เบนฌาแม็ง เมนดี้ สำรอง โอเล็กซานด์ร ซินเชนโก้ แบ็คขวาทีมชาติโปรตุเกส เชา คานเซโล่ สำรองของไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ จอห์น สโตน แบ็คอัพของนิโคลัส โอตาเมนดี้และเอเมอร์ริค ลาปอร์ก อดีตผู้รักษาประตูมือหนึ่งสโมสรบาร์เซโลน่า เคลาดิโอ บราโว่ สำรองของ เอแดร์ซอน นี่คือบรรดานักเตะสำรองของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่โจเซ่ มูริญโญ่บอกว่าสามารถลุ้นแชมป์ได้

สิบนักเตะในทีมสำรองของแมนฯซิตี้ล้วนเป็นนักเตะที่มีชื่อชั้น เป็นนักเตะคนสำคัญของทีมชาติและเมื่อได้ลงสนามแทนผู้เล่นตัวจริงพวกเขาก็ไม่ได้มีมาตรฐานที่ด้อยไปกว่าบรรดาผู้เล่นตัวจริงเลย ทั้งยังเห็นบ่อยครั้งที่ผู้เล่นเหล่านี้ลงมาเปลี่ยนเกมหรือลงมาชี้ขาดผลการแข่งขันให้ทีมได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากคิดเล่น ๆ ว่าเอาผู้เล่นจากอะคาเดมี่ของสโมสรเข้ามาสักคนเพื่อให้ทีมนี้ครบ 11 คนแล้ววัดดูกับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกไม่แน่เหมือนกันว่าทีมสำรองของแมนฯซิตี้ทีมนี้อาจดีพอให้ลุ้นแชมป์อย่างที่โจเซ่ มูริญโญ่ว่าไว้ก็เป็นไปได้